ท้องผูกในเด็กอันตราย ที่พ่อ แม่ ไม่ควรมองข้าม

 ท้องผูกในเด็กเป็นปัญหาที่พบได้มาก แม้จะดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยให้ลูกมีอาการท้องผูกนานๆ โดยไม่ทำการรักษา ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ท้องผูกในเด็กเป็นปัญหาที่พบได้มาก แม้จะดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยให้ลูกมีอาการท้องผูกนานๆ โดยไม่ทำการรักษา ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกทั้งทางร่างกายและจิตใจได้

     อาการท้องผูก คือ การถ่ายอุจจาระที่มีลักษณะแข็ง แห้งหรือเหนียว และมีการถ่ายลำบากร่วมอยู่ด้วย จำนวนครั้งที่ถ่ายมีความสำคัญน้อยกว่าลักษณะของอุจจาระ บางคนถ่าย 2 – 3 วันต่อครั้ง แต่ถ้าอุจจาระนิ่มถ่ายไม่ลำบากก็ถือว่าเป็นการถ่ายที่ปกติค่ะ หากอาการท้องผูกเป็นเรื้อรังอยู่นานจะทำให้ลำไส้ใหญ่ยืดตัวออกขยายใหญ่มากขึ้น การบีบตัวของลำไส้จะน้อยลงพร้อมกับความรู้สึกอยากถ่ายจะน้อยลงด้วย อุจจาระก็จะแข็งขึ้นเพราะน้ำจะถูกดูดซึมกลับไปหมดทำให้ถ่ายลำบาก ขณะถ่ายความแข็งของอุจจาระจะบาดเยื่อรูทวารหนักและทำให้เป็นแผล ทำให้เด็กๆ รู้สึกเจ็บและพยายามกลั้น จึงส่งผลให้อาการท้องผูกมีความรุนแรงมากขึ้นโดยอาจมีเลือดปนได้ หรือบางครั้งอุจจาระที่ยังค้างอยู่ถูกแบคทีเรียในลำไส้ย่อยสลายเป็นของเหลวก็จะทำให้ถ่ายออกมาทีละน้อยกะปริบกะปรอยได้โดยไม่รู้ตัว สาเหตุที่มักทำให้ลูกน้อยเกิดอาการท้องผูกในเด็กเล็ก ๆ คือ

  1. ได้รับน้ำน้อยเกินไป ทารกก็ไม่ต่างจากผู้ใหญ่ เมื่อขาดน้ำหรือได้รับน้ำน้อยเกินไป ก็จะทำให้อุจจาระแห้งแข็ง เป็นสาเหตุให้ถ่ายยาก ถ่ายไม่คล่องและท้องผูกในที่สุด แต่ในทารกวัยแรกเกิดถึง 6 เดือนที่ทานนมแม่ได้อย่างเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องทานน้ำเสริม เพราะทารกจะได้รับน้ำจากน้ำนมแม่ได้อย่างเพียงพออยู่แล้ว

  2. กลั้นอุจจาระ การกลั้นอุจจาระส่งผลให้เด็กมีอาการท้องผูกตามมาได้ เนื่องจากเด็กหลายคนมักจะกลั้นอุจจาระด้วยสาเหตุต่างๆ มากมาย เช่น ไม่กล้าเข้าห้องน้ำสาธารณะ ห่วงเล่นแม้จะปวดท้องขับถ่าย หรือกลัวการเข้าห้องน้ำอยู่แต่เดิม เป็นต้น ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องหมั่นสังเกตหรือหมั่นถามลูกบ่อยๆ ว่าปวดท้องขับถ่ายหรือไม่ เพื่อที่พ่อแม่จะได้ช่วยให้ลูกได้ขับถ่ายทุกวัน

  3. ถูกบังคับให้ขับถ่ายเองในขณะที่ยังไม่พร้อม เมื่อถึงวัยที่ลูกเริ่มเติบโต พ่อแม่บางคนจะพยายามฝึกให้ลูกเข้าห้องน้ำเอง แต่เมื่อใดที่ลูกยังไม่พร้อมขับถ่ายเอง ก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ รวมทั้งการที่ถูกพ่อแม่บังคับให้ขับถ่ายเอง ก็มีส่วนทำให้ลูกรู้สึกแย่หรือมีทัศนคติที่ไม่ดีกับการเข้าห้องน้ำ จนไม่อยากเข้าห้องน้ำเลย สิ่งที่จะตามมาก็คือ การกลั้นอุจจาระที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกตามมานั่นเอง

  4. เกิดจากกรรมพันธุ์ ในครอบครัว ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีประวัติถ่ายยากและท้องผูกบ่อย ทารกก็อาจจะท้องผูกได้ง่าย

  5. เกิดความผิดปกติของระบบขับถ่ายหรือลำไส้ เกิดจากความผิดปกติของลำไส้หรือระบบขับถ่าย ภาวะลำไส้โป่งพองแต่กำเนิด ในกรณีนี้ต้องพาลูกน้อยไปพบแพทย์

  6. มีการเปลี่ยนนมหรือชนิดของอาหารเสริม ในกรณีที่มีการเปลี่ยนอาหารทั้งนมผงสูตรใหม่ ยี่ห้อใหม่ ทารกจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับอาหารใหม่เนื่องจากระบบการย่อยของเด็กเล็ก ๆ ยังทำงานไม่สมบูรณ์อาจจะมีอาการท้องผูกได้

  7. การใช้ชีวิตถูกปรับเปลี่ยน การใช้ชีวิตที่ถูกปรับเปลี่ยนของลูกก็ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกเช่นกัน ยิ่งถ้าลูกต้องเข้าเรียนใหม่ๆ หรือต้องเดินทางไกลๆ รวมทั้งการอยู่ในสถานที่ที่อากาศเปลี่ยนแปลงไปจากสถานที่ที่อยู่เดิม จะส่งผลให้ลูกเกิดความเครียด และทำให้ขับถ่ายไม่ออก จนมีอาการท้องผูกตามมาได้

         


ความคิดเห็น