การขู่ให้ลูกกลัว ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก จะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กขี้กลัว และส่งผลต่ออนาคตให้กลายเป็นคนขี้กังวล แน่นอนว่ามันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เพราะการที่ลูกเชื่อฟังในตอนแรกจะมาจากความหวาดกลัวในคำขู่ต่าง ๆ ซึ่งทำให้ส่งผลต่อการลำดับความคิดของเด็ก และยังเป็นการปลูกฝังความเชื่อผิด ๆ ที่สร้างผลกระทบต่อ การดำเนินชีวิต และขัดขวางพัฒนาการของลูกน้อย ทำให้ลูกจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ เนื่องจากโดนความกลัวจากการขู่ครอบงำ
การขู่ลูกไม่ใช่วิธีที่ดีนัก หากคุณพ่อคุณแม่ใช้วิธีนี้บ่อยๆ ลูกจะสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง กลายเป็นคนขี้ระแวง และสะสมความกลัวเอาไว้อย่างไม่มีเหตุผล และเมื่อลูกรู้ว่าสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พูดไม่เป็นความจริง ก็จะเริ่มไม่เชื่อถือในคำพูดของคุณพ่อคุณแม่อีกต่อไปในทางกลับกัน หากไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กหวาดระแวง ขี้กลัว และเสียความมั่นใจในตัวเอง ก็ควรจะสอนและอธิบายทุกอย่างด้วยเหตุผล ตักเตือน และชื่นชมตามสมควร ไม่พูดจาในลักษณะขู่ให้กลัว หรือหลอกให้เข้าใจผิด ประโยคที่ไม่ควรขู่ลูกมีดังนี้
ถ้าดื้อเดี๋ยวผีจะมาหลอก ถ้ายังไม่นอน จะทำให้ลูกเกิดอาการหวาดกลัว และไม่กล้าอยู่คนเดียวในเวลากลางคืน ซึ่งจะไม่รู้เหตุผลจริงๆว่า ทำไมถึงต้องรีบนอนในเวลากลางคืน เนื่องจากเป็นเวลาที่ร่างกายต้องการพักผ่อน ดังนั้น พ่อแม่ควรสื่อสารโดยการบอกเหตุและผลกระทบของการนอนดึก แทนการขู่ลูกให้กลัว ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหนูนอนดึก จะทำให้พรุ่งนี้เช้าหนูจะตื่นไปโรงเรียนไม่ทัน
ถ้าดื้อเดี๋ยวแม่จะไม่รักนะ พ่อ แม่อาจจะพูดไปโดยไม่คิดอะไร เพราะคิดว่าลูกน่าจะรู้ว่ายังไงลูกก็รักอยู่แล้ว แต่หารู้ไม่ว่า คำพูดธรรมดานี้ อาจจะบั่นทอนความรุ้สึก และ ความเชื่อมั่นของลูก ลูกจะรู้สึกไม่แน่ใจว่า ตกลงพ่อ แม่ ยังรักเขาอยู่รึป่าว เด็กบางคนสับสนและอาจเข้าใจไปเอง ว่า พ่อ แม่ ไม่รัก ทำให้บางครั้งมีปัญหา อารมณ์ขึ้นๆลงๆ เพราะรู้สึกได้ ถึงความไม่มั่นคงในความรักของพ่อ และ แม่
ถ้าดื้อจะโดนฉีดยา ส่งผลให้ลูกน้อยเกิดอาการกลัวหมอ ในกรณีที่ลูกเกิดอาการเจ็บป่วยไม่สบายขึ้นมา ส่งผลกระทบให้คุณหมอทำงานได้ยากขึ้น เนื่องจากลูกน้อยปฏิเสธการรักษาหรืออาละวาดเพราะว่ากลัวหมอ ซึ่งอาจทำให้อาการป่วยหายช้าลงก็เป็นได้ ดังนั้นในกรณีที่ไปหาหมอและลูกน้อยงอแง ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ควรสื่อสารโดยการยื่นข้อเสนอ ด้วยการให้รางวัล ถ้าลูกเชื่อฟัง แทนการขู่ให้กลัว ยกตัวอย่างเช่น “ถ้าหนูไม่งอแง ไม่ดื้อ แม่จะพากินขนมที่ชอบ”
ถ้าซนมาก ๆ จะให้ตำรวจจับ การขู่แบบนี้ จะส่งผลให้เด็กขาดความมั่นใจ โดยอาจจะแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ ออกมาเช่น หวาดกลัวจนต่อต้านจนอาละวาดหนัก ดังนั้นในกรณีที่ออกไปข้างนอกและลูกน้อยซนมาก ๆ พ่อแม่ควรสื่อสารโดยการบอกผลที่จะเกิดขึ้นในกรณีที่ลูกน้อยไม่เชื่อฟัง เช่น ถ้าลูกปีนเก้าอี้และตกลงมา แม่จะไม่โอ๋นะ อาจจะมีการลงโทษเล็กน้อยตามความเหมาะสม
ล้อเลียน หรือ บูลลี่ บางครั้งพ่อ แม่ ก็นึกสนุกกับลุก มองว่าลูกยังเป็นเด็กเล็กที่ยังไม่คิดอะไรอยู่เสมอ ทั้งๆที่ลูกเริ่มโตแล้ว เราห่วงว่าลูกจะโดนแกล้ง โดนล้อ โดนบูลลี่จากคนอื่น แต่บางครั้ง พ่อ แม่ผู้ปกครองนี่แหละ ที่ทำร้ายลูก หลาน โดยไม่รู้ตัว เช่นใช้คำพูดล้อเลียนในสิ่งที่เด็กไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา สีผิว หรือความผิดพลาดในอดีต ซึ่งเป็นปมในใจที่ดูเหมือนเด็กไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว อาจจะหัวเราะด้วยซ้ำ แต่เก็บสะสมฝังใจจนทำให้เกิดความคิด และพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนไปจากความคาดหวังได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น