พฤติกรรมการเลี้ยงลูกที่ควรเลิก ควรหลีกเลี่ยง

  พ่อแม่มือใหม่ในปัจจุบันจะศึกษาวิธีการเลี้ยงลูกจากหลายช่องทาง แล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับครอบครัวตัวเอง  ปัจจุบันมีปัจจัยหลายอย่างเช่น สุขอนามัย สภาพสังคม ที่ทำให้พ่อแม่ยุคใหม่ต้องเพิ่มความใส่ใจ และเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการดูแลลูก สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ จะมาทำงานหนักหรือมีกิจกรรมรัดตัว เหมือนเมื่อก่อนคงไม่ได้ แนะนำให้แบ่งเวลาเพื่อนำมาดูแลลูกน้อย เพราะ 5 ขวบปีแรก เป็นช่วงที่ลูกน้อยจะมีการเรียนรู้และซึมซับสิ่งต่างๆ จากพ่อแม่มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อและคุณแม่ต้องให้เวลาและใส่ใจดูแลลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีที่สุด  พฤติกรรมการเลี้ยงลูกที่พ่อแม่ควรหลีกเลี่ยง ควรเลิกมีดังนี้

  1. หยุดใช้ความรุนแรงต่อหน้าเด็ก ความจริงแล้วในข้อนี้ ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครและวัยใดทั้งสิ้น กับการใช้อารมณ์และความรุนแรง เพราะจะทำให้เกิดความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ แต่สำหรับเด็กจะได้รับผลเสียยิ่งกว่านั้น เพราะนอกจากจะบอบช้ำทางร่างกายและจิตใจแล้ว วัยเด็กยังไม่สามารถแยกแยะแบบผู้ใหญ่ได้ เด็กจะจำพฤติกรรมเหล่านี้ไปใช้ต่อ ซึ่งจะเป็นปัญหาสังคมต่อไป

  2. ช่วยเหลือลูกเกินความจำเป็น ความจริงแล้วในข้อนี้ ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครและวัยใดทั้งสิ้น กับการใช้อารมณ์และความรุนแรง เพราะจะทำให้เกิดความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ แต่สำหรับเด็กจะได้รับผลเสียยิ่งกว่านั้น เพราะนอกจากจะบอบช้ำทางร่างกายและจิตใจแล้ว วัยเด็กยังไม่สามารถแยกแยะแบบผู้ใหญ่ได้ เด็กจะจำพฤติกรรมเหล่านี้ไปใช้ต่อ ซึ่งจะเป็นปัญหาสังคมต่อไป

  3. ให้ลูกทานแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจตระหนักถึงคุณประโยชน์ของอาหารสายเกินไป เคยชินกับการให้แต่อาหารที่ไม่เป็นประโยชน์กับลูกเนื่องจากลูกทานยากเลยตัดรำคาญ แต่พอจะให้ลูกทานอาหารที่มีประโยชน์ลูกก็กลับไม่ยอมทานเสียแล้ว งานวิจัยกล่าวไว้ว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่ยอมที่จะลองทานอาหารใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยถ้าเห็นพ่อแม่ทานเป็นตัวอย่างอย่างมีความสุข ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องทานอาหารนั้นให้ลูกดูเป็นตัวอย่างนะคะ เคล็ดลับก็คือคุณพ่อคุณแม่ต้องมีความอดทนหากน้องไม่ยอมทานในครั้งแรกๆ เพราะเด็กบางคนอาจต้องลองหลายครั้งกว่าจะยอมทาน และเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กๆ ที่จะงองแงไม่ยอมทานอาหารที่คุณพ่อคุณแม่เลือกให้ บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจใช้การสร้างสถานการณ์จำลอง เช่น สร้างสถานการณ์แย่งกันกินผัก เพื่อช่วยให้น้องทานง่ายขึ้นก็ได้ค่ะเนื่องจากเด็กเล็กมักมีนิสัยชอบเอาชนะ

  4. ให้ดูทีวีหรือเล่นมือถือมากเกินไป ข้อนี้น่าจะเป็นข้อผิดพลาดอันดับต้นๆ ของหลายๆ ครอบครัวเลยค่ะ ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น แต่สำหรับเด็กแล้วมีงานวิจัยหลายชิ้นที่พิสูจน์แล้วว่าหากให้ดูทีวีหรือเล่นมือถือจนมากเกินไปจะส่งผลต่อการเรียนรู้ในภายหลัง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหากิจกรรมอื่นให้ลูกทำหรืออ่านหนังสือให้ลูกฟังแทนการให้ดูมือถือหรือทีวี รวมถึงการชวนลูกพูดคุย สอนให้พูดและฟังจะเป็นประโยชน์มากกว่าค่ะ

  5. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด จากที่ได้เกริ่นไว้ตั้งแต่แรกว่าเมื่อก่อนคุณพ่อคุณแม่อาจชอบเดินในงานแฟร์ต่างๆ ไปดูคอนเสิร์ต ไปตลาดนัด หรือไปห้าง ฯลฯ เรียกได้ว่าไปในที่ที่มีคนพลุกพล่าน แต่เมื่อมีลูกแล้ว พฤติกรรมเหล่านี้ควรเลิกหรือหยุดซักพัก เพราะลูกน้อยยังมีภูมิคุ้มกันน้อย จะเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายค่ะ

  6. ไม่ใช้ความรุนแรงต่อหน้าลูก เมื่อก่อนคุณพ่อคุณแม่ก็มีกันอยู่สองคน หันไปทางไหนในบ้านก็เจอกันแค่สองคน จะมีทะเลาะกันบ้างก็บางวัน บางครั้งก็อาจพูดไปเพราะอารมณ์
    แต่วันนึง…เมื่อมีลูกแล้ว การใช้อารมณ์กับลูกต่อเป็นสิ่งที่ควรเลี่ยงค่ะ เพราะคำพูดและพฤติกรรมความรุนแรงที่เค้าเห็นหรือเค้าได้รับนั้นจะฝังอยู่ในใจเด็กเป็นภาพจำ และจะติดไปจนโต ซึ่งเค้าก็จะไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับคนอื่นอีก กลายเป็นปัญหาสังคมได้

  7. เลิกทำให้ลูกหัวเราะด้วยการโยน คุณพ่อคุณแม่บางคนชอบเห็นลูกหัวเราะจากการที่จับลูกโยนขึ้น หรือแกว่งไปมา แต่…สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผิดนะคะ เพราะสมองของเด็กเล็กยังบอบบาง อาจสร้างความกระทบกระเทือนหรือเกิดการบาดเจ็บในสมองได้







ความคิดเห็น