เชื่อเถอะว่าคู่ชีวิตทุกคนอยู่ด้วยกันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่อยากให้ระมัดระวังอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการกระทบกระทั่งกันนั้นก็คือ การทะเลาะกันซึ่งเป็นการทะเลาะต่อหน้าลูก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่ว่ามันจะส่งผลกระทบยังไงกับเด็กๆ ปัญหาความไม่ลงรอยกันของแต่ละครอบครัวอาจแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางการเงิน ความคาดหวังและการปรับตัวเข้าหากัน แนวทางการเลี้ยงลูกต่างกัน การนอกใจหรืออะไรก็ตาม ผู้ใหญ่ไม่ควรส่งต่อสิ่งเหล่านี้ไปให้เด็กๆที่ไม่รู้เรื่องด้วยแบกรับเอาไว้
เมื่อใดที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ลูกจะได้รับผลกระทบไปเต็มๆ เพราะลูกเป็นคนที่ต้องยืนอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ ลูกเป็นคนที่ต้องคอยรับฟังคำพูดที่รุนแรงและอารมณ์ร้ายจากทั้งสองฝ่าย ลูกรับรู้เรื่องราวทุกอย่าง แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรเลยนอกจากเฝ้ามองด้วยความหวาดกลัวและเสียใจ การที่พ่อ แม่ทะเลาะกันนั้นยังส่งผลกระทบในระยะยาวต่อตัวเด็กดังนี้ด้วย
เด็กๆจะกลายเป็นเด็กก้าวร้าว ในเมื่อเขาเห็นพฤติกรรมไม่ดีของเราบ่อยๆ เขาก็จะค่อยๆ ซึมซับสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะด้วยความเป็นเด็ก เขามักจะเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ จากผู้ใหญ่ ซึ่งการที่พ่อแม่ทะเลาะกันก็จะทำให้เด็กๆ กลายเป็นเด็กก้าวร้าว ชอบใช้กำลัง หรืออาจจะมีการรังแกเพื่อนเกิดขึ้นได้ด้วย
ขาดทักษะในการแก้ปัญหา เมื่อรู้สึกไม่มั่นคงและไม่มั่นใจว่าจะพึ่งพาใครได้ เด็กจึงมีแนวโน้มที่จะแก้ปัญหาด้วยการเลียนแบบพฤติกรรมความขัดแย้งที่อยู่ใกล้ตัว ทั้งการใช้อารมณ์และคำพูดต่อว่าคนอื่น หรือการหลบหนีปัญหา จนขาดการเรียนรู้ทักษะการใช้เหตุผล การพูดคุยและความอดทนในการแก้ปัญหา
ลูกมีพัฒนาการช้าอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าลูกจะนอนหลับ แต่สมองของเขาก็ยังเปิดรับและจดจำเสียงเหตุการณ์ขณะพ่อกับแม่ทะเลาะกัน และรับรู้ถึงอารมณ์โกรธเกรี้ยวนั้นได้ โดยเมื่อรู้สึกเครียดและกดดัน ร่างกายของเขาจะหลั่งฮอร์โมน cortisol ซึ่งหากมีฮอร์โมนนี้มากเกินไปจะส่งผลต่อพัฒนาการทั้ง IQ และ EQ
ลูกจะโยนความผิดให้ตัวเอง เพราะการทะเลาะกันเด็กๆ มักจะไม่ทราบหรอกว่าเกิดจากอะไร เกิดจากตัวของตัวเองหรือเปล่า ทำให้ส่วนใหญ่จะตำหนิตัวเอง และรู้สึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของข้อโต้แย้งเหล่านั้น อีกทั้งเด็กๆ จะเริ่มไม่ไว้ใจคุณพ่อคุณแม่ได้ และยังสร้างนิสัยที่ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ ได้อีกด้วย จนทำให้เด็กกลายเป็นเด็กไม่มีเพื่อนได้ในระยะยาวนั้นเอง
เด็กเกิดความเครียด และมีความทุกข์ การตกอยู่ภายใต้บรรยากาศตึงเครียดในครอบครัวเป็นประจำจนทำให้เกิดความเครียดและความทุกข์ใจสร้างข้อจำกัดต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กในแต่ละช่วงวัย เด็กมักขาดแรงจูงใจ ขาดความใส่ใจหรือไม่มีสมาธิมากพอที่จะทำกิจกรรมต่างๆให้สำเร็จลุล่วงได้ตามที่คาดหวัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น