พ่อแม่รังแกฉัน ในที่นี้หมายถึง การเลี้ยงดูลูกในแบบที่ผิดจนส่งผลเสียไปถึงอนาคตของเด็ก หากคุณอยู่ในฐานะพ่อแม่ มาลองอ่านบทความนี้เพื่อศึกษาแนวทางการเลี้ยงลูกกันเถอะ จะได้ระวังไม่ให้เกิดพฤติกรรม พ่อแม่รังแกฉัน โดยไม่รู้ตัวการทำร้ายลูกตัวเองโดยที่พ่อแม่ไม่รู้ตัว อาจเกิดมาจากความรักและความหวังดีที่อยากจะดูแลลูกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางครั้งก็หลงลืมการสอนด้วยเหตุผลและความถูกต้องไปบ้าง จนทำให้เกิดเป็นการสปอยล์ลูกในทางที่ผิด
พ่อแม่ยุคใหม่ที่พร้อมทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ เงิน หลายครอบครัวมีลูกน้อยคนหรือมีลูกเพียงคนเดียว ด้วยความคิดที่ว่าอยากให้เด็กคนนี้ได้รับความรักอย่างเต็มที่ หรือเพื่อที่ลูกจะได้ไม่ต้องเผชิญกับสภาพความเป็นอยู่อย่างที่ตนเองเคยเผชิญ จึงมักจะเลี้ยงลูกแบบที่ประคบประหงมมากจนเกินไป ตามใจเพราะไม่อยากขัดใจลูก กลัวลูกไม่รัก ดูแลปกป้องชนิดที่ลูกไม่ต้องทำอะไรเลยเดี๋ยวพ่อแม่ทำให้ จนแทบจะพูดได้ว่าเด็กมีหน้าที่หายใจเข้าหายใจออกเฉยๆ เท่านั้น พฤติกรรมที่เข้าข่าย พ่อ แม่ รังแกฉันมีดังนี้
ตามใจมากเกินไป พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกแบบตามใจทุกอย่าง อยากได้อะไรขอให้บอกพ่อแม่ทำให้ทุกอย่าง ไม่เคยขัดใจหรืออธิบายถึงเหตุผลที่ควรจะเป็นให้ฟัง เมื่อใดก็ตามที่ลูกร้องไห้ ก็มักจะปลอบใจด้วยสิ่งของทุกครั้ง โดยไม่ใช้วิธีพูดคุยด้วยเหตุผลให้รู้เรื่อง การเลี้ยงลูกด้วยวิธีตามใจขนาดนี้ ผลลัพธ์ก็คือพวกเขาจะกลายเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็ต้องได้ ความอดทนต่ำรออะไรไม่เป็น จอมบงการ ก้าวร้าว เพราะทุกอย่างเคยได้มาง่ายๆ เสมอ ถ้าไม่ได้ก็จะแสดงออกด้วยพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก แบบนี้เมื่อเด็กออกไปเจอสังคมภายนอก เขาจะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ยาก หรือไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นได้ อาจกลายเป็นเด็กไม่มีเพื่อนคบ
รักลูกมากเกินไป การเลี้ยงดูลูกเหมือน ไข่ในหิน ไม่ยอมให้ลูกเจอกับโลกภายนอก ไม่ยอมให้ห่างจากสายตาเพราะกลัวลูกจะเป็นอันตราย ลูกจึงไม่เคยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง พฤติกรรมของพ่อแม่แบบนี้ส่งผลให้ลูกมีทักษะในการช่วยเหลือตัวเองช้า การพัฒนาไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจในตัวเองนั้นจึงมีน้อยมากเพราะไม่เคยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง
เลี้ยงลูกแบบเข้มงวด ไม่ยืดหยุ่น เพราะคุณต้องการให้ทุกอย่างดี ถูก (เป๊ะเว่อร์) ตลอด ยิ่งลูกทำไม่ได้ดังใจ ก็โกรธก็ตำหนิ เพียงเรื่องเล็กๆ ก็แปลงสารเป็นเรื่องใหญ่ การทำแบบนี้จะทำให้พัฒนาการที่ควรเป็นไปของลูกแย่ลง เพราะด้วยความรู้สึกผิดหวัง รู้สึกว่า ตัวเองไม่มีคุณค่า ไม่มีอะไรดี ไม่มีความสามารถ ทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจพ่อแม่
ให้ท้ายลูก ไม่สั่งสอนลูกว่าสิ่งที่ทำถูก หรือ ผิด ความคิดที่ว่า “ลูกฉันไม่ผิด” และ “ลูกฉันเป็นคนดี” มักเจอได้เสมอ เอาเข้าจริง พ่อแม่ทุกคนที่แยกแยะผิดชอบชั่วดีได้จะรู้อยู่แก่ใจว่าลูกทำผิดหรือไม่ผิด แต่ด้วยความอยากปกป้องลูกจึงมักจะแก้ตัวให้แล้วโทษนั่นโทษนี่ หลอกตัวเองว่าลูกฉันจะเป็นอย่างไรก็ช่างเขาทำถูกเสมอ ไม่เคยสอน ปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนั้น เพราะกลัวลูกจะเสียใจที่ถูกดุ ถูกลงโทษ เลยทำให้ลูกสูญเสียสามัญสำนึก แยกแยะถูกผิดดีชั่วไม่เป็น กลายเป็นเด็กเกเรที่ชอบรังแกคนอื่น มีพฤติกรรมก้าวร้าว
ปล่อยปะละเลยการเอาใจใส่ เด็กทุกคนต้องการความรักและการดูแลเอาใจใส่ แต่พ่อแม่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานจนไม่มีเวลาอยู่กับลูก ผลลัพธ์ก็คือลูกขาดความอบอุ่น และจำนวนไม่น้อยขาดการอบรมสั่งสอน เด็กกลุ่มนี้จึงมักจะแสวงหาความสุขจากนอกบ้าน เมื่อเข้าโรงเรียนแล้วพบว่าการอยู่กับเพื่อนคือความสุข ความรัก ความอบอุ่นที่ไม่เคยได้จากที่บ้าน กลายเป็นติดเพื่อน ถ้าเจอเพื่อนดีก็ดีไปแต่ถ้าเจอเพื่อนไม่ดี สิ่งที่น่ากังวลก็จะตามมา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น