เมื่อลูกไม่ยอมกินข้าว ทำอย่างไรดี


    โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กอายุครบ 1 ปี จะเริ่มเรียนรู้การปฏิเสธหรือคายอาหาร เนื่องจากมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหาและหยิบอาหารต่าง ๆ มากินได้เอง ลักษณะดังกล่าวจัดเป็นสัญชาตญาณที่ช่วยป้องกันตัวเองไม่ให้รับประทานอาหารที่มีสารพิษหรือเป็นอันตรายต่อร่างกายเข้าไป ส่วนใหญ่แล้ว พฤติกรรมลูกไม่ยอมกินข้าวนั้นจะไม่เกิดขึ้นนาน และหายไปเองได้โดยไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ อย่างไรก็ตาม เด็กเล็กบางรายอาจมีพฤติกรรมดังกล่าวอันเกิดจากปัญหาสุขภาพ ซึ่งพ่อแม่ควรสังเกตและเตรียมรับมือ ลูกไม่กินข้าวหรือลูกกินยาก เป็นอีกหนึ่งปัญหาหนักใจ และน่ากังวลสำหรับคุณพ่อคุณแม่หลายคน เพราะกลัวลูกจะตัวเล็กกว่าเพื่อน ไม่แข็งแรงหรือเจริญเติบโตตามวัย เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารบางอย่างและอาจส่งผลต่อการพัฒนาทางร่างกายและสมอง 

    ปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าวเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น  การเลือกกิน เด็กมีปัญหาในการเลือกรับประทานอาหารบางอย่าง เนื่องจากไม่ชอบเนื้อสัมผัส รสชาติ หรือกลิ่นของอาหารนั้น ๆ พ่อแม่ควรสังเกตพฤติกรรมการเลือกกินของลูก เพื่อดูว่าเด็กเลือกกินและไม่กินอาหารอะไรบ้าง เลี่ยงของกินแปลกใหม่ เด็กเล็กมักเลี่ยงกินอาหารใหม่ พ่อแม่ควรช่วยให้เด็กลองรับประทานอาหารใหม่ ๆ โดยให้อาหารที่มีรสชาติคล้ายกับอาหารที่เด็กคุ้นเคย เป็นต้น วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆในการรับมือเมื่อลูกไม่ยอมกินข้าวมาฝากกันด้วยค่ะ

  1. ไม่บังคับลูกให้กิน พ่อแม่ไม่ควรบังคับให้เด็กรับประทานอาหาร หรือทำโทษเมื่อเด็กไม่กินข้าว เนื่องจากจะทำให้เด็กรู้สึกเครียดเมื่อต้องร่วมโต๊ะอาหาร ทั้งนี้ ควรให้ลองชิมอาหารใหม่บ่อย ๆ เนื่องจากเด็กต้องใช้เวลานานถึงจะรู้สึกคุ้นเคยและรับประทานอาหารที่ชิมได้

  2. อย่าให้นมมากเกินไป คุณแม่ต้องลดปริมาณการให้นมลง เพราะเมื่อเด็กมีอายุมากขึ้น หรือ 1 ปีขึ้นไป อาหารหลักของเขาคือข้าว ไม่ใช่นมอีกต่อไป เด็กที่มีปัญหาในการกินข้าว อาจต้องจำกัดการให้นมควรงดนมมื้อกลางคืนด้วย เพราะการให้นมช่วงกลางคืนหรือเช้ามืด มักจะทำให้เด็กไม่รู้สึกหิว และไม่อยากอาหาร

  3. สร้างบรรยากาศสบายๆ ในมื้ออาหารคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรคาดหวัง เข้มงวด หรือกดดันทำให้เด็กรู้สึกเครียด ไม่ควรติ หรือวิพากษ์วิจารณ์ปริมาณอาหารที่เด็กกิน เช่น ทำไมถึงกินข้าวน้อย ควรเชียร์หรือกล่าวชม เพื่อให้บรรยากาศในโต๊ะอาหารอบอุ่น ลูกผ่อนคลายและอยากทานอาหารมากขึ้น

  4. ให้ลูกกินในปริมาณที่พอดี  พ่อแม่ควรให้เด็กรับประทานอาหารในปริมาณที่รับได้ โดยอาจเริ่มให้เด็กกินอาหารประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วค่อยเติมให้เมื่อเด็กต้องการเพิ่ม วิธีนี้จะทำให้เด็กไม่รู้สึกพะอืดพะอมเมื่อต้องรับประทานอาหาร

  5. กล่าวคำชมเมื่อลูกกินอาหาร หากเด็กรับประทานหรือชิมอาหารใหม่ ๆ ได้ รวมทั้งมีพฤติกรรมการร่วมโต๊ะอาหารที่ดี พ่อแม่ควรชมเด็กทันที เพื่อให้เด็กรู้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่เหมาะสม รวมทั้งทำให้รู้สึกว่าพ่อแม่กำลังตั้งใจดูตนเองกินหรือลองชิมอาหารอยู่ ไม่ได้มานั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเท่านั้น

  6. ไม่เล่นไปกินไป  คุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัวต้องสร้างระเบียบวินัยการกินให้กับลูก ไม่ควรเล่นไปกินไป และไม่ควรใช้เวลาการทานอาหารแต่ละมื้อเกิน 20-30 นาที





ความคิดเห็น