เลี้ยงลูกด้วยอารมณ์

   การเลี้ยงลูกด้วยอารมณ์ ไม่ได้หมายถึงการทำโทษด้วยการตีเท่านั้น แต่รวมไปถึงการพูดเสียงดังใส่ลูก เหวี่ยง วีน หงุดหงิด ใช้คำพูดเชิงลบกับลูก ตะคอกใส่ลูก และทะเลาะใส่ลูกมากกว่าที่จะใช้เหตุผลอธิบาย  พ่อแม่ที่ตี ดุ หรือใช้อารมณ์กับลูกส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าลูกมักจะแสดงพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้พ่อ แม่ รู้สึกไม่พอใจ หรือเป็นเพราะ เด็กทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พ่อ แม่ เลยอยากจะเตือนว่าสิ่งที่ลูกทำนั้นมันไม่ดีนะจึงต้องต่อว่า ตี ดุ หรือใช้อารมณ์กับลูกในบางครั้ง แต่พ่อ แม่ รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่ทำนั้นถึงแม้จะทำให้ลูกหยุดพฤติกรรมดังกล่าวได้ แต่การทำบ่อยๆจะเกิดผลเสียกับลูกมากกว่าเสียอีก

      พ่อแม่ควรมีเวลาเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ด้วยอารมณ์ที่แจ่มใส ให้ความรักความเอาใจใส่กับลูกสม่ำเสมอ ตอบสนองความต้องการได้ทันทีจะทำให้สร้างสัมพันธภาพทางจิตใจที่แนบแน่นกับเด็กได้ดี เด็กที่มีความผูกพันทางจิตใจที่แนบแน่นกับพ่อแม่ จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่รัก เห็นคุณค่าของตน สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้ และสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ดี  ผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเลี้ยงลูกด้วยอารมณ์มีดังนี้

  1. การเลียนแบบพฤติกรรมก้าวร้าว มักพบสาเหตุมาจากพ่อแม่และผู้ดูแล หากพ่อแม่มีอารมณ์เหวี่ยงง่าย ขี้หงุดหงิด  ใช้อารมณ์ดุว่าและทำโทษเด็กอย่างไม่เหมาะสม จะส่งผลให้เด็กเครียด เก็บกด และเลียนแบบพฤติกรรมก้าวร้าว  พ่อแม่ควรมีเวลาดูแลลูกและไม่ควรใช้สื่อเป็นเครื่องมือเลี้ยงลูกแทนตนเอง โดยเฉพาะเด็กวัย 0-2 ปี  พ่อแม่ควรดูแลด้วยการชวนคุย เล่นกระตุ้นพัฒนาการ ไม่ควรปล่อยให้เด็กเสพสื่อเพียงลำพัง เพราะจะทำให้เด็กเลียนแบบพฤติกรรมก้าวร้าวจากสื่อที่มีเนื้อหาก้าวร้าวได้ นอกจากนี้เด็กจะขาดการกระตุ้นและมีพัฒนาการที่ล่าช้าได้ 

  2. ลูกไม่เชื่อฟังและต่อต้าน เด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยอารมณ์ส่งผลให้ลูกต่อต้าน อยากเอาชนะ พ่อแม่บอกให้ทำอะไร ก็จะไม่ทำ ยิ่งดื้อ ยิ่งต่อต้านมากขึ้น และใช้อารมณ์มากกว่าฟังเหตุผลของคุณพ่อคุณแม่ คุณพ่อคุณแม่แสดงให้ลูกเห็นว่าเราเป็นทีมเดียวกัน และให้ลูกรู้สึกเป็นคนสำคัญในการทำสิ่งนั้นจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น ตั้งแต่ช่วงเริ่มหัดเดิน คุณพ่อคุณแม่สามารถสื่อสารให้ลูกฟังได้ว่างานที่พ่อแม่ต้องรับผิดชอบมีอะไรบ้าง และเริ่มแจกงานบ้านที่ต้องรับผิดชอบ สิ่งไหนที่ลูกอยากทำ เมื่อทำตามหน้าที่เรียบร้อยแล้ว คุณแม่อาจใช้วิธีขีดเครื่องหมายว่าได้ทำงานตามมอบหมายแล้ว ลูกจะเกิดความภูมิใจและเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น

  3. ลูกเข้าสังคมได้ยาก ผลกระทบจากการเลี้ยงลูกด้วยอารมณ์ไม่ต่างจากผลกระทบที่เกิดกับลูกที่ถูกทำร้ายร่างกายซ้ำๆ สมองส่วนหน้าที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้ทางสังคม รวมถึงสมองส่วนที่เชื่อมโยงการเรียนรู้ไม่สามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ลูกเข้าสังคมยาก และมีศักยภาพในการเรียนแย่ลงการใช้เหตุผล แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะใช้อารมณ์กับลูก ลองเปลี่ยนมาหาสาเหตุที่แท้จริงของพฤติกรรมที่ไม่น่ารักของลูก ยกตัวอย่างเช่น ลูกร้องไห้ โวยวาย จริงๆ แล้วลูกอาจจะกำลังหิว หรือนอนไม่พอ คุณพ่อคุณแม่ควรถามและทำท่ารับฟังอย่างตั้งใจ ไม่ใส่อารมณ์ไปตามอารมณ์แปรปรวนของลูก

  4. ลูกชอบรังแกเพื่อน และขาดความมั่นใจในตัวเอง ผลกระทบจากการเลี้ยงลูกด้วยอารมณ์ไม่ต่างจากผลกระทบที่เกิดกับลูกที่ถูกทำร้ายร่างกายซ้ำๆ สมองส่วนหน้าที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้ทางสังคม รวมถึงสมองส่วนที่เชื่อมโยงการเรียนรู้ไม่สามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ลูกเข้าสังคมยาก และมีศักยภาพในการเรียนแย่ลงแทนที่คุณพ่อคุณแม่จะใช้อารมณ์กับลูก ลองเปลี่ยนมาหาสาเหตุที่แท้จริงของพฤติกรรมที่ไม่น่ารักของลูก ยกตัวอย่างเช่น ลูกร้องไห้ โวยวาย จริงๆ แล้วลูกอาจจะกำลังหิว หรือนอนไม่พอ คุณพ่อคุณแม่ควรถามและทำท่ารับฟังอย่างตั้งใจ ไม่ใส่อารมณ์ไปตามอารมณ์แปรปรวนของลูก





ความคิดเห็น