ลูกไม่ยอมกินข้าว รับมืออย่างไรดี

    ลูกไม่ยอมกินข้าว นับเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในการเจริญเติบโตของทารกและเด็กเล็ก เมื่อทารกอายุประมาณ 9-11 เดือน จะไม่ต้องการให้พ่อแม่คอยป้อนอาหารให้ แต่อยากกินอาหารด้วยตัวเอง โดยเด็กแต่ละคนจะไม่กินข้าวมากน้อยแตกต่างกันไป ในขณะที่เด็กบางคนยังคงอยากให้พ่อแม่ป้อนข้าวอยู่ โดยเฉพาะเด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือกล้ามเนื้อสำหรับเคี้ยวอาหารมีพัฒนาการช้า

      ปัญหา ลูกไม่ยอมกินข้าวเป็นปัญหาที่ผู้ปกครองพบเจอได้บ่อย และทำให้ผู้ปกครองหลายคนมีความกังวล กลัวว่าลูกจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการเลือกกินอาหารในเด็ก (ที่เรียกว่า “กินยาก”) นั้นเป็นพฤติกรรมที่พบได้ตามธรรมชาติ เนื่องจากช่วงเวลาที่เด็กโตขึ้นมาจากวัยทารก น้ำหนักและส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นต่อปีจะค่อย ๆ ลดลง โดยจะเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าวเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันไป ได้แก่ การเลือกกิน การเลี่ยงอาหารใหม่ อาการแพ้อาหาร โรคกลัวอาหาร ปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อการกิน และสาเหตุอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม  ปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าวเป็นสิ่งที่แก้ไขได้ ด้วยวิธีต่างๆดังนี้ 

  1. สร้างสีสันในการรับประทานอาหารร่วมกัน พ่อแม่ควรช่วยกันสร้างบรรยากาศในการรับประทานอาหารร่วมกันเป็นครอบครัว โดยให้สมาชิกทุกคนนั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน รวมทั้งใช้จาน ชาม หรือแก้วน้ำที่มีลวดลายหรือสีสันสวยงาม เพื่อให้เด็กรู้สึกเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหาร

  2. กำหนดเวลารับประทานอาหารแต่ละมื้อให้ลูก มื้อละไม่เกิน 30 นาที  ฝึกวินัยให้ลูกรู้ว่า เวลาไหนกิน กินนานเท่าไร ถ้าลูกเล่นเพลินไม่กินแล้วแสดงว่าลูกไม่หิว ก็บอกลูกดีๆ ว่า “ลูกคงอิ่มแล้ว แม่เก็บนะคะ เราจะกินกันอีกที ตอน ……(มื้อถัดไป) นะคะ” ระหว่างนี้ถ้าลูกหิว ให้อาหารว่างได้ตามเวลา ถ้าไม่ใช่เวลากิน ให้เบี่ยงเบนความสนใจของลูกไปสู่กิจกรรมที่ชวนลูกสนุกแทน

  3. ชมเมื่อเด็กกินอาหาร หากเด็กรับประทานหรือชิมอาหารใหม่ ๆ ได้ รวมทั้งมีพฤติกรรมการร่วมโต๊ะอาหารที่ดี พ่อแม่ควรชมเด็กทันที เพื่อให้เด็กรู้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่เหมาะสม รวมทั้งทำให้รู้สึกว่าพ่อแม่กำลังตั้งใจดูตนเองกินหรือลองชิมอาหารอยู่ ไม่ได้มานั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเท่านั้น

  4. ไม่สนับสนุนให้ลูกกินจุบจิบตลอดเวลา   เพราะลูกจะไม่หิวเวลาถึงมื้ออาหาร กำหนดระยะเวลาของมื้อหลักและมื้อว่างให้ชัดเจน (แต่หยืดหยุ่นได้) ให้มีระยะห่างระหว่างแต่ละมื้อบ้าง ให้ลูกพอรู้สึกหิว แต่ไม่หิวมากจนส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและการแสดงออกอย่างรุนแรง

  5. ให้ลูกได้หยิบจับอาหาร หรือ จับอาหารใส่ปากด้วยตนเอง  เมื่อเขาเริ่มทำได้ให้มากที่สุด ความเลอะเทอะ คือ การเรียนรู้ ถ้าพ่อแม่วุ่นวายกับความสะอาดมากจนต้องทำความสะอาดกันตลอดเวลาระหว่างกิน อาจเกิดปัญหาลูกกินยากตามมา








ความคิดเห็น