สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าลูกถูกสปอยล์ มากเกินไป

 การสปอยล์ลูก คือการที่คุณพ่อคุณแม่ตามใจ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับลูกมากและง่ายดายจนเกินไป จนทำให้ลูกเคยชินและเข้าใจว่าตัวเองจะต้องได้รับทุกอย่างที่ต้องการ คุณพ่อคุณแม่มีหน้าที่ตามใจ และรู้สึกผิดหวัง ไม่พอใจ จนแสดงออกเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีเมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ซึ่งพฤติกรรมไม่ดีเหล่านี้ อาจส่งผลทำให้เด็กมีปัญหาในการเข้าสังคม ปัญหาด้านพัฒนาการทางด้านจิตใจ

       สาเหตุหลัก ๆของการสปอยล์ลูก ก็มาจากพ่อแม่ยุคนี้มีค่านิยมที่ต้องการมีลูกคนเดียว หรืออย่างมากก็มีลูกไม่เกินสองคน ยิ่งแนวโน้มหนุ่มสาวแต่งงานกันเมื่ออายุมากขึ้นเพิ่มจำนวนมากเท่าไร โอกาสที่จะมีลูกยากก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มพ่อแม่ที่พร้อมจะสปอยล์ลูกทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ เพราะมีเป้าหมายจะดูแลลูกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งมีลูกยากก็จะยิ่งกลายเป็นลูกหัวแก้วหัวแหวนของพ่อแม่ไปโดยปริยาย ซึ่งพ่อแม่ในกลุ่มนี้มักจะตอบสนองลูกในทุกเรื่อง ตั้งแต่แรกเกิดก็จะประคบประหงม ไม่ยอมให้ลูกร้องไห้ ไม่ยอมให้หิว บางทีลูกยังไม่ทันได้รู้สึกหิวด้วยซ้ำ สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าลูกของท่านนั้นถูกสปอยล์มากเกินไป มีดังนี้นะคะ

  1. อารมณ์เกรี้ยวกราด  วัยก่อน 1-2 ขวบ ลูกอาจจะแสดงความหงุดหงิดหรือไม่พอใจ เมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการเป็นเรื่องธรรมดา เพราะลูกไม่สามารถสื่อสารหรือบอกความต้องการของตัวเองได้เต็มที่ แต่เมื่อลูกโตถึงวัยที่สามารถพูดคุยกันเข้าใจแล้ว หากลูกยังคงมีอารมณ์เกรี้ยวกราด หรือโมโหง่ายทุกครั้งที่ถูกห้ามหรือขัดใจ โดยไม่รับฟังเหตุผล  ก็อาจเป็นอีกสัญญาณที่บอกได้ว่าลูกเริ่มมีนิสัยของเด็กที่ถูกสปอยล์มากเกินไป

  2. เถียงคำไม่ตกฟาก เราๆ คงได้ยินคำนี้มาตั้งแต่รุ่น ปู่ ย่า ตา ยาย หากมีเด็กพูดเถียง ไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำผิด หรือผู้ใหญ่พูดเตือนอะไรแล้วเถียงกลับทันที แบบนี้ที่เขาเรียกว่าเถียงคำไม่ตกฟาก เป็นการแสดงอาการของเด็กที่ไม่น่ารัก แต่ถ้าลูกน้อยไม่ได้ทำผิดแล้วพยายามอธิบาย นับว่าเป็นคนละสาเหตุกันนะ

  3. ไม่รู้จักแบ่งปันคนอื่น เมื่อลูกน้อยได้รับมากๆ เราควรจะบอกให้เขารู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่นบ้าง เด็กสามารถรับรู้การแบ่งปันได้ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป เป็นช่วงวัยที่เขาเริ่มเข้าใจหลายสิ่งมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บ่งบอกถึงทักษะทางด้านอารมณ์และจิตใจ หากเขารู้จักแบ่งปัน อาการที่ถูกสปอยล์หรือการถูกเอาแต่ใจจะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ

  4. ลูกไม่ค่อยมีเพื่อน อีกหนึ่งสัญญาณที่สามารถสังเกตได้ นั้นคือลูกไม่ค่อยมีเพื่อนหรือมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนอยู่บ่อยๆ หากปล่อยไว้นาน ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ เพราะเด็กที่ไม่มีเพื่อน จะสูญเสียทักษะการเข้าสังคมและตามมาด้วยความไม่มั่นใจในตัวเองอีกด้วย

  5. ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ เมื่อไหร่ที่ลูกไม่ยอมทำหน้าที่ของตนเอง เช่น เล่นของเล่นแล้วไม่ยอมเก็บ ปล่อยให้บ้านรก เมื่อพ่อแม่สั่งให้เก็บแต่ลูกยังดื้อรั้นไม่ยอมเก็บอีก และหากคุณใช้เงื่อนไขว่า เช่น เก็บของเล่นแล้วแม่จะพาไปเที่ยว การใช้เงื่อนไขแบบนี้บ่อยๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิด เราควรสอนให้ลูกยอมรับว่านี่คือหน้าที่ของเขา มากกว่าใช้เงื่อนไขเพื่อแลกเปลี่ยน

 

 

 





ความคิดเห็น