ปัญหา อุปสรรค การไม่สมหวัง ความผิดพลาด ล้มเหลว บกพร่อง โรคภัยไข้เจ็บ การพลัดพรากจากคนที่รัก ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอในชีวิตคน ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่มีใครสามารถปกป้องลูกไม่ให้พบสิ่งเหล่านี้ได้เลย แม้มีเงินล้นฟ้า อำนาจล้นมือก็ตาม แล้วทำอย่างไรที่ลูกจะสามารถเผชิญปัญหา..ฝ่าวิกฤตชีวิตเหล่านี้ไปได้ วันนี้เรามีวิธีการสอนลูกให้มีภูมิต้านทานชีวิต มาฝากคุณพ่อ คุณแม่ กันด้วยนะคะ
สอนให้ลูกรู้ว่าชีวิตจริงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายจนไม่น่าอยู่เอาเสียเลย เราไม่ได้สอนลูกให้มองโลกในแง่ร้าย แต่สอนให้ลูกรู้ว่าชีวิตจริงจะมีอุปสรรคปัญหาบ้างไม่มากก็น้อย แต่เราจะสามารถผ่านไปได้หากเรามีสติ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ไข จะต้องมีทางออกอย่างแน่นอน ไม่มีใครแพ้ หากเราไม่ยอมแพ้ นอกจากนี้ต้องสอนลูกว่า มีหลายอย่างที่เราต้องเตรียมใจว่า ?อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด? อย่ากลัวปัญหาไปก่อนเพื่อเราจะได้มีกำลังที่สามารถรับมือกับปัญหานั้น ๆ ได้
ฝึกลูกทำอะไรเอง การให้ลูกทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็น การกินเอง เเต่งตัวเอง หยิบของเอง นอกจากช่วยสร้างวินัยให้เด็ก ยังทำให้เด็กมีความมมั่นใจว่าสามารถช่วยเหลือตนเองได้ เพราะในความจริงเด็กๆ เก่งกว่าที่เราคิด คุณพ่อคุณเเม่เพียงเเค่ต้องกระตุ้นให้เขาทำสิ่งต่างๆ เท่านั้น ความมั่นใจที่ได้จะเกิดเป็นมุ่งมั่นพร้อมอยากทำให้ดีขึ้นไปอีก
เลี้ยงลูกเชิงบวก เป็นแนวคิดในการทำความเข้าใจพัฒนาการตามวัยของลูก พ่อแม่ต้องเข้าใจ และ เข้าใจถึงหัวอกของลูก ส่งเสริมให้เขาเติบโตอย่างเต็มศักยภาพตามวัย เข้าใจธรรมชาติของเด็ก และแก้ไขพฤติกรรมที่เป็นปัญหา
สอนลูกผ่านความล้มเหลวในชีวิต เราควรบอกลูกว่า ความล้มเหลว ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องใหญ่ ขอเพียงเรามีความตั้งใจที่ดี มีความเพียรอดทน เราจะลุกขึ้นมาประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน เช่น บางครั้งลูกอาจสอบตก หรือสอบเข้าเรียนต่อไม่ได้ หลังจากการให้กำลังใจลูกแล้ว ควรลองชวนลูกคิดว่า มีข้อผิดพลาดอะไร เพื่อนำมาแก้ไขสำหรับครั้งต่อไปได้ ผิดครั้งแรกควรเป็นครูของเรา ไม่มีใครไม่เคยพลาด หรือล้มเหลว มีประธานาธิบดีหลายคนที่เคยล้มเหลวในการเลือกตั้งหลายครั้ง แต่เขาไม่ย่อท้อและในที่สุดเขาประสบความสำเร็จ
ฝึกให้ลูกควบคุมอารมณ์ บางครั้งที่ลูกเเสดงอาการโมโหออกมา คุณพ่อคุณเเม่ก็ไม่ควรจะไปโมโหตามลูกนะคะ อยากให้พยายามควบคุมอารมณ์ให้ได้เพื่อเป็นต้นเเบบกับลูก เพราะเด็กๆ มักเลียนแบบ
การเเสดงออกของพ่อเเม่เเล้วทำตาม หลังจากนั้นพอลูกอารมณ์นิ่งเเล้วก็มาสอนเขาว่าควรเเสดงออกแบบไหนถึงจะเหมาะสม
อย่าเข้าไปช่วยลูกในทันทีในเวลาที่คับขัน เวลาที่ลูกเริ่มมีปัญหาคุณพ่อคุณเเม่ไม่ควรเข้าไปช่วยลูกทันที เเต่ควรปล่อยให้ลูกลองเรียนรู้ เเล้วเเก้ปัญหานั้นเองก่อน เช่น เมื่อลูกปั่นจักรยานเเล้วล้ม ก็ไม่ควรเข้าไปโอ๋เพื่อช่วยเลยทันที หรือบางครั้งที่ลูกมีปัญหาเข้ามาก็ควรดูว่าลูกเราใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบไหน เเล้วค่อยๆ ดูว่าจะเสริมจุดไหนได้บ้าง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น