การที่ลูกตื่นกลางคืนบ่อยไม่ได้มีผลต่อพัฒนาการทางสมองค่ะ สมองของลูกน้อยยังเติบโตได้เป็นปกติ แต่จะส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายของลูกน้อยโดยตรงค่ะ เพราะฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต (Growth Hormone) จะหลั่งได้ดีในช่วงนอนหลับ เด็กที่นอนน้อย หลับๆ ตื่นๆ ตลอดคืนจะทำให้การหลั่งฮอร์โมนตัวนี้เสียไป และมักจะมีพัฒนาการทางร่างกายที่ไม่ดีนัก ส่วนใหญ่การที่ลูกตื่นกลางคืนบ่อยจะทำให้กลายเป็นเด็กตัวเล็ก ไม่ค่อยโต นั่นเอง
โดยส่วนใหญ่เมื่อลูกน้อยอายุเกิน 4-6 เดือน มักจะหลับได้นานขึ้นในช่วงตอนกลางคืน แต่หากลูกน้อยมักตื่นบ่อยตอนกลางดึก หรือบางรายที่เคยนอนหลับยาวตอนกลางคืนแล้วมาตื่นร้องไห้บ่อย ๆ คุณแม่อาจสังเกตสาเหตุและรับมือได้โดยวิธีการต่อไปนี้ค่ะ
ลูกตื่นกลางคืนเพราะกินนมเยอะไป การเลี้ยงลูกอาจเป็นเรื่องง่าย แต่ในบางครั้งเรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หนักอกหนักใจ และปวดหัวได้ อย่างเรื่องการกินนมของเจ้าเบบี๋ ซึ่งถ้าลูกกินน้อย คุณพ่อคุณแม่ก็ทุกใจ หรือกินนมมากไป ก็เป็นปัญหาส่งผลให้ลูกน้อยร้องกวน งอแง กวนใจคุณพ่อคุณแม่อีก แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกกินเยอะ แม่ๆ มาดูอาการของลูกกินนมเยอะเกินมักมีอาการ นอนร้อง แอะๆๆ แอะๆๆ นอนบิดตัวเหยียดแขนเหยียด เป็นต้น
ลูกน้อยฝันร้ายจากการเล่นมากในช่วงเย็นหรือก่อนนอน วิธีแก้คืออย่าให้ลูกน้อยเหนื่อยเกินไป คุณแม่ควรจัดเวลานอนกลางวันให้เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป และช่วงก่อนนอนให้ทำกิจกรรมที่ไม่โลดโผนตื่นเต้นแทน
ลูกตื่นกลางคืนเพราะเป็นธรรมชาติของเด็กคนนั้น การที่ลูกน้อยตื่นกลางคืน อาจมาจากสาเหตุการที่คุณแม่ให้ลูกนอนกลางวันมากเกินไป จึงทำให้ลูกที่นอนกลางวันมาก ๆ กลางคืนก็จะตาสว่าง เมื่อตื่นกลางดึกแล้วมักจะไม่นอนต่อ คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกน้อย หลับกลางคืน ตื่นกลางวันและอีกหนึ่งสาเหตุอาจมาจากสภาพแวดล้อม บรรยากาศ หรือสิ่งรบกวนอื่นๆภายในห้องนอน ก็ได้ค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ควรเข้าใจว่า การที่ลูกตื่นกลางคืน อาจเป็นเพราะธรรมชาติของเด็กก็ได้ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องเตรียมรับมือไว้เป็นอย่างดีค่ะ
ลูกน้อยนอนไม่ตรงเวลา คุณแม่ควรพาลูกเข้านอนให้ตรงเวลาและวางแพลนกิจกรรมก่อนนอนที่แน่นอน และควรให้ลูกน้อยนอนเอง อย่าอุ้มจนหลับ ถึงแม้ลูกน้อยจะไม่นอนทันทีก็ปล่อยให้ลูกอยู่บนเตียงคนเดียวไปเรื่อย ๆ ถ้าลูกร้องไห้ไม่ต้องอุ้ม แต่ให้คอยอยู่ข้าง ๆ ได้ ลูกน้อยอาจร้องไห้นานถึง 1-2 ชั่วโมงเป็นเรื่องปกติ
อุณหภูมิห้องนอนของลูกน้อยร้อนหรือเย็นเกินไป คุณแม่อาจสังเกตดูว่าลูกน้อยชอบห้องนอนที่มีบรรยากาศแบบไหน คอยปรับอุณภูมิ ความสว่างให้เหมาะสม รวมถึงเสียงในห้องนอน เพราะเสียงหึ่งเบา ๆ เช่น พัดลม หรือเสียงนาฬิกาเดิน จะทำให้ลูกน้อยไม่รู้สึกวังเวงเกินไป ทั้งนี้ควรหาเสื้อผ้าที่สบายตัวให้ลูกน้อยใส่ และอย่าลุกหาลูกน้อยทันทีที่ส่งเสียงอืออากึ่งหลับกึ่งตื่นเพราะอาจทำให้ลูกน้อยตื่นนอนได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น